การจัดอันดับเครื่องวัดความเร็วลมที่ดีที่สุดสำหรับปี 2022

เครื่องวัดความเร็วลม (หรือเครื่องวัดลม) เป็นอุปกรณ์ที่สามารถแสดงความเร็วของการไหลของอากาศ ในโลกสมัยใหม่มีรูปแบบต่างๆ ซึ่งแสดงอุณหภูมิของกระแสน้ำที่กำลังเคลื่อนที่ด้วย ส่วนใหญ่ผลิตในโรงงาน แต่หากต้องการสามารถสร้างแบบจำลองที่ง่ายที่สุดได้อย่างอิสระ ขอบเขตการใช้งานค่อนข้างกว้างขวางและเฉพาะเจาะจงเป็นส่วนใหญ่

เครื่องวัดความเร็วลม - ข้อมูลทั่วไป

ทุกวันนี้ อุปกรณ์วัดความเร็วลมได้ไปไกลจากจุดประสงค์เดิม - ตอนนี้พวกเขาสามารถวัดความเร็วลมไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังวัดความเร็วของก๊าซต่างๆ ด้วย ดังนั้น ความชำนาญพิเศษของมันจึงขยายออกไปอย่างมาก และอุปกรณ์นี้ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านอุตุนิยมวิทยาทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีวัตถุประสงค์ที่ใช้ได้ เช่น การกำหนดความเร็วลมที่สนามบินและลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เพื่อกำหนดลมกระโชกของพายุในท่าเรือ เพื่อสร้างความเป็นไปได้ ของงานก่อสร้างอาคารสูงตลอดจนการเคลื่อนตัวของก๊าซอันตรายในการระบายอากาศของเหมืองแร่ หน่วยวัดสำหรับเครื่องมือเหล่านี้กำหนดเป็นเมตรต่อวินาที

หากก่อนหน้านี้อุปกรณ์เป็นวัตถุที่อยู่กับที่โดยเฉพาะ วันนี้มีรุ่นมือถือซึ่งเหมาะสำหรับการขนส่งและใช้งานในสถานที่ที่ยากต่อการเข้าถึง

หลักการทำงาน

การวัดความเร็วของการเคลื่อนที่ของมวลอากาศหรือก๊าซ ตลอดจนผลลัพธ์ของข้อมูลที่ได้รับ การแปลงเป็นหน่วยที่จำเป็น ดำเนินการโดยองค์ประกอบโครงสร้างสามประการของอุปกรณ์:

1. องค์ประกอบการวัด - โดยการกระตุ้นของเซ็นเซอร์จะทำการวัดโดยตรงซึ่งดำเนินการโดยใช้อัลตราซาวนด์, การหล่อเย็นของโลหะ, แรงดันตก, ความเข้มของรังสี
2. การแปลงธาตุ - ปริมาณทางกายภาพที่ได้รับจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบพลังงานบางประเภท
3. องค์ประกอบการตรึง - ประกอบด้วยแป้นหมุน ตัวนับ และตัวบ่งชี้ที่แสดงผลลัพธ์ด้วยสายตา

หลากหลายรุ่นและการจำแนกประเภท

ขึ้นอยู่กับหลักการทำงานและคุณสมบัติการออกแบบของเครื่องวัดลม พวกเขาสามารถแบ่งออกเป็นอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องกล และอัลตราโซนิก:

• กลไก - เนื่องจากการเคลื่อนที่ของมวลอากาศในการออกแบบทำให้เกิดการหมุนของแต่ละส่วน (ใบมีด) หมวดหมู่นี้รวมถึงตัวอย่างถ้วยและปีก (ใบมีด) ต่างกันแค่รูปร่างขององค์ประกอบสำหรับจับอากาศที่เข้ามา - มันคือใบมีดหรือชาม
• ความร้อนหรือความร้อน - พวกมันมีเซ็นเซอร์ความร้อนซึ่งเป็นลวดหลอดไส้ธรรมดาซึ่งในกระบวนการสัมผัสกับมวลอากาศเคลื่อนที่จะเย็นลง การวัดขึ้นอยู่กับตัวบ่งชี้การลดลงของอุณหภูมิความร้อนของเซ็นเซอร์ หมายถึงรุ่นอิเล็กทรอนิกส์
• อัลตราโซนิก - การวัดจะดำเนินการบนพื้นฐานของการกำหนดความเร็วของคลื่นเสียง นั่นคือเสียงที่เคลื่อนที่ผ่านก้อนก๊าซ (อากาศ) ในสภาวะตื่นเต้นจะมีความเร็วต่างกัน เมื่อมันเคลื่อนเข้าหาลม ความเร็วของมันจะลดลง มิฉะนั้นความเร็วของเสียงจะเพิ่มขึ้น บนพื้นฐานของปรากฏการณ์ทางกายภาพนี้ การวัดจะดำเนินการ

การจัดประเภทที่มีอยู่

เหนือสิ่งอื่นใด แบบจำลองเครื่องวัดความเร็วลมสามารถจำแนกตามประเภทของเซ็นเซอร์ที่รับผิดชอบในการโต้ตอบกับการไหลของอากาศ บนพื้นฐานนี้พวกเขาจะแบ่งออกเป็น:

• การหมุน - เมื่อโต้ตอบกับลม บางส่วนของโครงสร้างเริ่มหมุนขึ้นอยู่กับความแรงของหลัง
• อะคูสติก - สามารถวัดความเร็วเสียงได้
• ความร้อน - ทำงานภายใต้ความแตกต่างของอุณหภูมิขององค์ประกอบการวัด
• อุปกรณ์ออปติคัล - ซับซ้อนที่ต้องมีวัตถุพิเศษในกระแสที่เคลื่อนที่ซึ่งจะสะท้อนลำแสงเลเซอร์โดยพิจารณาจากการวัด
• ไดนามิก - ตามหลักการของท่อ Pitot-Prandtl ซึ่งวัดความเร็วตามความแตกต่างของแรงดันระหว่างกระแสน้ำเข้าและออก

สำคัญ! หลักการทำงานสองข้อสุดท้ายนั้นใช้จริงในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นและมีความสำคัญในทางปฏิบัติเพียงเล็กน้อย เนื่องจากผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำสูงที่ได้รับในชีวิตประจำวันจะไม่มีความสำคัญมากนัก

เครื่องวัดลมยอดนิยม

มีปีก

อุปกรณ์ประเภทนี้เป็นอุปกรณ์ที่พบได้บ่อยที่สุดและสามารถผลิตผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำเพียงพอ ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งในประเทศและในโรงงานอุตสาหกรรม โมเดลเหล่านี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่อไปนี้:

• ที่สถานีอุตุนิยมวิทยา (เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์สภาพอากาศ)
• ที่สนามบิน (เพื่อกำหนดความเป็นไปได้ของเที่ยวบิน);
• ในระบบระบายอากาศของการขุด (เพื่อกำหนดระดับของการปล่อยอากาศที่เหมาะสม);
• ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง (เพื่อวัดความแรงของการไหลของอากาศเมื่อทำงานบนที่สูง เช่น เพื่อกำหนดความสามารถในการรับงานบนทาวเวอร์เครน)
• ในอุตสาหกรรมการเกษตร (เพื่อกำหนดความเป็นไปได้ของการบำบัดพืชผลด้วยสารเคมีป้องกันและปุ๋ยจากอากาศ)

สำคัญ! อุปกรณ์ที่มีปีก (ใบพัด) ส่วนใหญ่สามารถวัดความเร็วลมในระนาบต่างๆ ได้ในขณะเดียวกันก็วัดอุณหภูมิของอากาศ

อุปกรณ์ของรุ่นใบมีดประกอบด้วยสามส่วนหลัก:

1. โมดูลที่รับผิดชอบในการวัดความเร็วลมในสภาวะที่เรียกว่าส่วนที่เหลือ พูดง่ายๆ คือ โมดูลจะจับระดับการรบกวนของมวลอากาศขณะเคลื่อนผ่านใบพัด
2. โมดูลที่รับผิดชอบในการแปลง - เป็นผู้ที่ทำหน้าที่เป็น "ผู้แปล" ของข้อมูลที่ได้รับเป็นหน่วยทางกายภาพ
3. โมดูลที่รับผิดชอบการบันทึก - ข้อมูลที่ได้รับจากทรานสดิวเซอร์จะถูกบันทึกด้วยสายตาเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานอ่านง่าย

ถ้วย

เครื่องวัดลมเหล่านี้ได้รับการดัดแปลงเพื่อวัดเฉพาะในระนาบที่ตั้งฉากกับแกนหมุนของโถโดยตรงเท่านั้น ตามเนื้อผ้า อุปกรณ์มีสี่ชาม สร้างขึ้นในรูปทรงครึ่งวงกลม อยู่บนก้านโรเตอร์ไม้กางเขนและมีขนาดสมมาตร อุปกรณ์แฮนด์คัพสามารถนับจำนวนรอบของการข้ามที่ทำในช่วงเวลาหนึ่งได้ รุ่นที่ปรับปรุงแล้วยังมีเครื่องวัดวามเร็วประเภทต่างๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลลัพธ์ที่ได้ การวัดจะดำเนินการทันทีในแบบเรียลไทม์ และความแม่นยำในการวัดอยู่ที่ 0.2 ถึง 30 เมตรต่อวินาที

ความร้อน

หลักการทำงานของพวกเขาคือการวัดความต้านทานไฟฟ้าบนเกจลวด ตัวบ่งชี้นี้เปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของความร้อนซึ่งลดลงในสภาวะที่อากาศไหลเร็วเกินไป โครงสร้างเป็นเส้นใยโลหะที่ทำจากทังสเตน เงิน นิโครม หรือแพลตตินั่ม (หรือโลหะอื่นๆ)ด้ายนี้ถูกทำให้ร้อนด้วยกระแสไฟฟ้าจนถึงอุณหภูมิที่ต้องเกินอุณหภูมิแวดล้อมในปัจจุบัน ข้อเสียเปรียบหลักของเครื่องวัดลมประเภทนี้คือความต้านทานต่ำมากต่ออิทธิพลทางกลที่แข็งแกร่ง

Ultrasonic

หลักการทำงานของพวกเขาขึ้นอยู่กับการวัดความเร็วของเสียงในการไหลของก๊าซที่ไม่อยู่นิ่งซึ่งดำเนินการตามกฎของอะคูสติกทางกายภาพ ดังนั้น หากเสียงแพร่กระจายไปในทิศทางเดียวกับมวลอากาศ ความเร็วของเสียงจะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อเสียงไม่เป็นไปตามทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศ ความเร็วของเสียงก็จะลดลง ขึ้นอยู่กับความแตกต่างที่ได้รับ ช่วงเวลาของการตอบสนองของพัลส์อัลตราซาวนด์จะถูกวัด

อุปกรณ์นี้ทันสมัยที่สุดและตามกฎแล้วจะติดตั้งตัวควบคุมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผลลัพธ์ ตัวเซ็นเซอร์สามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่าง (ขึ้นอยู่กับประเภทของมัน):

• เซ็นเซอร์สองมิติ - ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางและความเร็วของกระแสลม
• เซ็นเซอร์สามมิติ - จะสามารถกำหนดทั้งสามองค์ประกอบของความเร็วลม
• เซ็นเซอร์สี่มิติ - นอกจากฟังก์ชันข้างต้นแล้ว ยังสามารถตั้งอุณหภูมิของการไหลของอากาศได้อีกด้วย

รุ่นอัลตราโซนิกสามารถทนต่อความเร็วลมได้สูงถึง 60 เมตรต่อวินาที

ความแตกต่างระหว่างอุปกรณ์ประเภทต่างๆ

ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างอุปกรณ์ทางกลกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คือสำหรับอันแรก คุณจะต้องบันทึกรอบที่เกิดจากเซ็นเซอร์วัดด้วยตนเอง จากนั้นจึงทำการคำนวณอย่างอิสระโดยใช้สูตรที่เหมาะสม สำหรับเครื่องวัดความเร็วลมแบบอิเล็กทรอนิกส์ การกระทำนี้ไม่จำเป็นเพราะ การคำนวณทั้งหมดทำโดยตัวควบคุมอิเล็กทรอนิกส์นอกจากนี้ เวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์ยังเพิ่มความไวและสามารถบันทึกพารามิเตอร์ได้สามตัวพร้อมกัน:

• ความเร็วปัจจุบันของมวลอากาศ
• ลมกระโชกแรงสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด
• ดำเนินการคำนวณค่าเฉลี่ย

แยกจากกันเป็นมูลค่าการกล่าวขวัญเครื่องวัดความเร็วลมซึ่งส่วนวัดจะทำเป็นโพรบพิเศษและค่อนข้างพูดวางอยู่นอกร่างกายหลัก สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่จะใช้อุปกรณ์ดังกล่าว เนื่องจากคุณสามารถติดตามไดนามิกของการเปลี่ยนแปลงในตัวบ่งชี้ได้โดยตรงในระหว่างการวัด เทคโนโลยีนี้มักใช้กับโมเดลที่หมุนได้และโมดูลการวัดจะเชื่อมต่อกับตัวเครื่องหลักด้วยสายเคเบิล อุปกรณ์เพิ่มเติมของเครื่องวัดความเร็วลมที่มีตัวควบคุมอิเล็กทรอนิกส์พร้อมหน่วยความจำในตัวจะไม่ฟุ่มเฟือยเมื่อต้องจัดเก็บผลลัพธ์อย่างถาวร รวมถึงเวลา สถานที่ และค่าที่วัดได้

สำคัญ! เป็นที่น่าสังเกตว่าเครื่องวัดความเร็วลมใด ๆ เป็นเรื่องของการวัดดังนั้นในอาณาเขตของสหพันธรัฐรัสเซียจึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสำหรับการรับรองและการปฏิบัติตามมาตรฐานของรัฐ!

ปัญหาการเลือก

ในกระบวนการซื้อเครื่องวัดความเร็วลมใหม่เสมอ คุณควรตัดสินใจว่าจะใช้สภาพใดและเพื่อวัตถุประสงค์ใด ทางที่ดีควรใส่ใจกับประเด็นต่อไปนี้:

• พารามิเตอร์ทางเทคนิค (ในช่วงใดจำเป็นต้องวัดความเร็วของการเคลื่อนที่ของมวลอากาศ - ความเร็วสูงหรือการเคลื่อนที่จะเกิดขึ้นที่ความเร็วต่ำหรือปานกลาง)
• ลักษณะความแม่นยำ (สำหรับการผลิตการวัดที่แม่นยำเป็นพิเศษในห้องปฏิบัติการ ควรใช้แบบจำลองไดนามิกหรือเลเซอร์)
• ความน่าจะเป็นที่อาจเกิดขึ้นของกรณีการรับประกัน (เช่น เมื่อเกินขีดจำกัดความเร็ว)
• การออกแบบและความแข็งแรงของตัวถัง
• คุณภาพของเซ็นเซอร์วัด
• อุปกรณ์เพิ่มเติม

การมีตัวเลือกเพิ่มเติมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานเสมอ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น เซ็นเซอร์ความชื้น อุณหภูมิ หรือมาตรวัดรอบ คุณต้องให้ความสนใจกับหน่วยวัดแยกต่างหาก - สำหรับตัวอย่างการผลิตต่างประเทศ พวกเขาสามารถอยู่ในระบบที่แตกต่างกัน ไม่เพียงแต่แตกต่างจากเมตริกหนึ่งเท่านั้น แต่ยังสามารถทำการวัดตามมาตราส่วนทางกายภาพอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการยอมรับ ในสหพันธรัฐรัสเซีย

ปัญหาราคา

ส่วนตลาดรัสเซียปัจจุบันสามารถนำเสนอเครื่องวัดลมรุ่นราคาถูกซึ่งจะทำให้ผู้ใช้เสียค่าใช้จ่ายในภูมิภาค 1,500 - 2,000 รูเบิล อุปกรณ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่มีการออกแบบแบบดั้งเดิม มีข้อผิดพลาดในระดับสูง ควบคู่ไปกับฟังก์ชันเสริมเล็กน้อย การซื้อที่ต้องการมากที่สุดคืออุปกรณ์ที่มีราคา 8,000 - 10,000 รูเบิล ตามกฎแล้วพวกมันให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำค่อนข้างสูงมีเกราะป้องกันในร่างกายซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่ก้าวร้าว อุปกรณ์ระดับมืออาชีพที่มีราคา 20,000 รูเบิลขึ้นไปเป็นที่ต้องการในภาคอุตสาหกรรม (การก่อสร้างและการเกษตร) เนื่องจากมีฟังก์ชันการทำงานที่กว้างมาก มีความเบี่ยงเบนน้อยที่สุดจากการวัดจริง อุปกรณ์เพิ่มเติมได้รับมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

เคล็ดลับในการใช้งาน

ก่อนที่คุณจะเริ่มทำงานกับอุปกรณ์ คุณควรตรวจสอบการควบคุมของอุปกรณ์อย่างรอบคอบสำหรับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ หลักการทำงานอาจเป็นมาตรฐาน แต่การกำหนดโมดูลการบันทึกและประเภทของผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายที่ให้อาจแตกต่างกัน

นอกจากนี้ยังควรทำความคุ้นเคยกับสภาพการทำงานที่แนะนำโดยผู้ผลิตซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อขจัดความเสี่ยงจากความล้มเหลวของอุปกรณ์ก่อนวัยอันควร ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตบางรายห้ามการใช้ผลิตภัณฑ์ของตนโดยชัดแจ้งภายใต้รังสีอัลตราไวโอเลตโดยตรง ต้องจำไว้เสมอว่าเครื่องวัดลมเป็นอุปกรณ์วัดที่แม่นยำ และอิทธิพลภายนอกที่อาจส่งผลต่อความแม่นยำของผลลัพธ์เป็นอย่างดี สามารถพูดได้เช่นเดียวกันเกี่ยวกับการปรากฏตัวของสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองในปริมาณมากเกินไปในมวลอากาศที่วัดได้ - สถานการณ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์เชิงกล ดังนั้น ก่อนเริ่มการวัด เครื่องวัดลมแบบกลจะต้องอยู่ในสภาพที่สะอาดสมบูรณ์

ในเวลาเดียวกัน เครื่องวัดความเร็วลมไม่ควรรับภาระงานเป็นเวลานาน และก่อนที่จะเริ่มการวิจัยใดๆ เครื่องวัดลมควรได้รับการตรวจสอบ:

• ตรวจสอบความเสียหายภายนอก
• ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับในสภาวะที่ไม่รุนแรง
• ทดสอบโหนดที่รับผิดชอบในการแสดงผลลัพธ์

การจัดอันดับเครื่องวัดความเร็วลมที่ดีที่สุดสำหรับปี 2022

ส่วนงบประมาณ

อันดับที่ 3: Benetech GM816

ตัวเลือกที่ดีสำหรับส่วนงบประมาณ สามารถลงทะเบียนสถานะ "พัก" ของมวลอากาศ - จาก 0.3 เมตรต่อวินาที ข้อผิดพลาดที่อนุญาตต้องไม่เกิน 2% อุณหภูมิแวดล้อมในการทำงานที่ประกาศไว้คือ -15 ถึง +55 องศาเซลเซียส โมเดลนี้ง่ายและใช้งานง่าย และการมีอยู่ของป้ายบอกคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ทำให้การลบผลลัพธ์เป็นกระบวนการที่ง่ายมากประเทศที่ผลิตคือจีนราคาที่แนะนำสำหรับเครือข่ายค้าปลีกคือ 990 รูเบิล

• ราคาสุดประหยัด;
• ช่วงอุณหภูมิการทำงานที่เพียงพอ
• ใช้งานได้กว้าง

• ข้อผิดพลาดเมื่อทำงานบนที่สูงสามารถเข้าถึง 5%

อันดับที่ 2: "เครื่องมือ ADA AeroTemp 30"

อุปกรณ์นี้มีความไวสูง ซึ่งส่งผลต่อความแม่นยำ เนื่องจากข้อผิดพลาดถูกตั้งไว้ที่ 3% ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ "นิ้วก้อย" สามก้อน ซึ่งเพียงพอสำหรับการทำงานเต็ม 60 ชั่วโมง ผู้ผลิตได้ติดตั้งอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการวัดในระบบต่างๆ จอแสดงผลดิจิตอลสามารถปรับความสว่างได้เองตามแสงแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิ ประเทศต้นกำเนิดคือจีนราคาขายปลีกที่แนะนำคือ 2,000 รูเบิล

• ความสามารถในการทำงานในระบบการวัดต่างๆ
• ร่างกายสะดวก
• ความไวที่เพิ่มขึ้น

• มีข้อผิดพลาด 3%

อันดับที่ 1: "AMTAST AMF006"

เครื่องวัดลมแบบใบพัดนี้ใช้ดีที่สุดในพื้นที่ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการวัดการไหลของอากาศที่ปล่อยออกมาจากพัดลมอุตสาหกรรมไปยังเครื่องทำความเย็นของคอมพิวเตอร์ ข้อผิดพลาดในการวัดคือ 2% อย่างไรก็ตามจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้อุปกรณ์ที่สูงหรือในที่โล่ง สามารถเลือกติดตั้งโมดูลการวัดระยะไกลได้ ประเทศที่ผลิตคือจีนต้นทุนที่กำหนดไว้สำหรับเครือข่ายค้าปลีกคือ 2400 รูเบิล

• ความสามารถในการเชื่อมต่อโมดูลระยะไกล
• ฟังก์ชั่นพิเศษ;
• ความไวที่เพิ่มขึ้น

• ไม่พบ.

ส่วนราคากลาง

อันดับที่ 3: "MEGEON 11006"

ตัวเลือกมัลติฟังก์ชั่นที่ยอดเยี่ยมจากผู้ผลิตในรัสเซีย ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของมันคือความสามารถในการทำงานในระบบการวัดต่างๆ: ทางบกและทางน้ำ เมตร และแม้กระทั่งฟุต ในเวลาเดียวกัน เซ็นเซอร์อุณหภูมิที่ติดตั้งจะสร้างค่าอุณหภูมิในหน่วยเคลวิน ฟาเรนไฮต์ และเซลเซียส มีความละเอียดอ่อนมากกับกระแสลมที่ "สงบ" จึงสามารถเริ่มการวัดได้จากความเร็ว 0.1 เมตรต่อวินาที เป็นที่น่าสังเกตว่า ขึ้นอยู่กับแอปพลิเคชันเชิงพื้นที่ ข้อผิดพลาดจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 1 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ตัวอุปกรณ์ทำงานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์เพียงก้อนเดียว ประเทศต้นกำเนิดคือรัสเซีย ต้นทุนที่กำหนดไว้สำหรับเครือข่ายค้าปลีกคือ 5,000 รูเบิล

• ความแปรปรวนของระบบเมตริก
• การมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิ
• โมดูลระยะไกลสำหรับการวัด

• แบตเตอรี่ใช้งานได้เพียง 10 ชั่วโมง

อันดับที่ 2: "WindLiner ATI-30"

อุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กมาก แม้ว่าจะมีโมดูลระยะไกล ดังนั้นการขนส่งจึงไม่ใช่เรื่องยากเป็นพิเศษ ลวดที่ใบพัดเชื่อมต่อกับตัวเครื่องสามารถเข้าถึงได้ถึง 2 เมตรและฐานสปริงไม่อนุญาตให้พันกัน อุณหภูมิในการทำงานอยู่ระหว่าง -10 ถึง +45 องศาเซลเซียส ความเร็วเริ่มต้นสำหรับการวัดตั้งไว้ที่ 0.3 เมตรต่อวินาที ซึ่งบ่งชี้ถึงวัตถุประสงค์ทางอุตสาหกรรมและความสามารถในการทำงานบนที่สูงและพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ ข้อผิดพลาดสำหรับสภาพการใช้งานในอุตสาหกรรมนั้นสามารถยอมรับได้ - เพียง 3% ประเทศต้นกำเนิดคือจีน ค่าใช้จ่ายที่แนะนำสำหรับร้านค้าปลีกคือ 6,000 รูเบิล

• การวางแนวอุตสาหกรรม
• ขนาดเล็ก
• ลวดสปริง.

• ค่อนข้างเกินราคา

อันดับที่ 1: "MEGEON 11005"

ตัวแทนที่ยอดเยี่ยมอีกคนหนึ่งของการผลิตของรัสเซีย ตัวควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ของอุปกรณ์นี้ไม่เพียงแต่สามารถตรวจวัดได้เท่านั้น แต่ยังจัดเก็บผลลัพธ์ได้อีกด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่มีฟังก์ชันบันทึกมีเซลล์หน่วยความจำเพียงไม่กี่เซลล์ที่จะถูกเขียนทับเมื่อเซลล์เต็ม รุ่นเดียวกันมีเซลล์ดังกล่าว 500 เซลล์ ดังนั้นจึงสะดวกมากในการคำนวณค่าเฉลี่ยเป็นเวลาหลายวัน งานเริ่มต้นดำเนินการด้วยความเร็ว 0.2 เมตรต่อวินาทีและข้อผิดพลาดที่อนุญาตจะอยู่ที่ 2% ประเทศต้นกำเนิดคือรัสเซียราคาขายปลีกที่แนะนำคือ 7400 รูเบิล

• เซลล์หน่วยความจำจำนวนมาก
• ตัวเรือนที่ทนทาน
• คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

• ตรวจไม่พบ

ตัวอย่างพรีเมี่ยม

อันดับที่ 3: "เทสโต้ 405"

อุปกรณ์นี้อยู่ในหมวดดิจิทัลและอยู่ในกลุ่มการวัดความร้อน ด้วยเสาอากาศพิเศษทำให้สามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด สามารถตรวจจับแม้แต่ร่างที่เล็กที่สุดในพื้นที่ขนาดเล็กพิเศษได้ไม่เกินสองสามเซนติเมตร เสาอากาศนั้นติดตั้งอยู่บนแกนที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งช่วยให้สามารถใช้เครื่องวัดความเร็วลมที่ระดับความสูงใดก็ได้และในที่ที่ยากต่อการเข้าถึง ข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอการบันทึกเป็นข้อมูลที่ดีที่สุด สามารถใช้ในด้านการวิจัยและวิทยาศาสตร์ประเทศต้นกำเนิดคือเยอรมนี ราคาขายปลีกที่แนะนำคือ 10,000 รูเบิล

• ความแม่นยำสูง;
• ฟังก์ชั่นที่ยอดเยี่ยม;
• ตัวบ่งชี้ความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น

• ตรวจไม่พบ

อันดับที่ 2: "CEM DT-8880"

อุปกรณ์มัลติฟังก์ชั่นนี้สามารถกำหนดความเร็วของการไหลของอากาศได้ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุณหภูมิด้วยทิศทางด้วย นอกจากนี้ การวัดสามารถทำได้แม้ในพื้นที่ปิดขนาดเล็ก บนแกนระยะไกลที่เชื่อมต่อกับร่างกายด้วยลวดที่แข็งแรง มีเซ็นเซอร์ที่มีความไวสูงเป็นพิเศษ ซึ่งทำขึ้นจากเชือกเส้นเล็กที่อุ่นด้วยไฟฟ้า ทั้งหมดนี้จะเพิ่มความแม่นยำของอินดิเคเตอร์ที่ได้รับ ตัวเสาอากาศเป็นแบบยืดหดได้ ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้ทั้งบนที่สูงและในที่ที่ยากต่อการเข้าถึง ประเทศต้นกำเนิดคือจีน ราคาขายปลีกที่แนะนำคือ 12,900 รูเบิล

• เพิ่มความแม่นยำ;
• เสาอากาศยืดไสลด์;
• ขนาดเล็ก

• ราคาสูงมาก.

อันดับที่ 1: "Testo 410-2"

แม้ว่ารุ่นนี้จะทำมาจากฐานพาย แต่ไส้แบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำสูง ความเร็วลมสามารถวัดได้ตั้งแต่ 0.2 เมตรต่อวินาที โดยมีอัตราความคลาดเคลื่อน 1% การทำงานของอุปกรณ์ใช้แบตเตอรี่ "ประเภทนิ้ว" 2 ก้อนเท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับ 80 ชั่วโมง ตัวกล้องได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และมีการป้องกันอิทธิพลจากภายนอกในระดับสูง ตั้งแต่แรงกระแทกทางกลไกไปจนถึงความชื้นและความทนทานต่อรังสียูวี ในระหว่างการขนส่ง กลไกการพายปิดอย่างแน่นหนาด้วยฝาปิดพิเศษ ซึ่งช่วยขจัดการเกาะติดของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจรบกวนความแม่นยำในการวัดประเทศต้นกำเนิดคือเยอรมนีราคาในเครือข่ายค้าปลีกคือ 16,000 รูเบิล

• ระดับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
• ความถูกต้องของการเติมอิเล็กทรอนิกส์
• คุณภาพแบรนด์ยุโรปตะวันตก

• ราคาสูง.

แทนที่จะเป็นบทส่งท้าย

การวิจัยตลาดที่ดำเนินการได้พิสูจน์แล้วว่ากลุ่มที่ต่ำกว่านั้นถูกยึดครองโดยสินค้าที่ผลิตในเอเชียซึ่งราคาต่ำมีความแม่นยำต่ำเหมือนกัน ค่อนข้างน่ายินดีที่กลุ่มราคากลางเป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์รัสเซียซึ่งในแง่ของประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยกว่ารุ่นต่างประเทศตะวันตกในขณะที่มีราคาค่อนข้างเพียงพอ ในเวลาเดียวกันผู้ผลิตในเอเชียได้ทำเครื่องหมายตัวเองในอุปกรณ์ระดับพรีเมียมในอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำเป็นพิเศษและกำหนดราคาไว้ที่ระดับยุโรป อย่างไรก็ตาม โมเดลจากแบรนด์ตะวันตกที่มีการบรรจุอิเล็กทรอนิกส์คุณภาพสูงและเซ็นเซอร์อุณหภูมิแบบแปรผันนั้นเหมาะสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากกว่า